กาวยางแต่ละแบบ ใช้งานแตกต่างกันยังไง?

รู้จักกับกาวยางให้มากขึ้น กาวยางมีกี่ประเภท? มีวิธีการใช้งานอย่างไร?

ขึ้นชื่อว่ากาวแล้ว แน่นอนว่า “กาวยาง” ก็เป็นสิ่งที่ใช้ในการยึดติดวัสดุต่าง ๆ ได้หลากหลายชนิดเหมือนกับกาวทั่วไป แต่คุณสมบัติพิเศษที่กาวยางแตกต่างจากกาวชนิดอื่น ๆ คือความสามารถของกาวยางในการเกาะติดที่สูงมาก กาวยาวจึงนิยมใช้ในงานตกแต่งภายใน งานเฟอร์นิเจอร์ งานประดิษฐ์ ไปจนถึงงานซ่อมแซมสิ่งของ เพราะสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายในระยะเวลาที่รวดเร็ว วันนี้ ยูเนี่ยน คอมแมท จะขอพามาทำความรู้จักกับกาวยางว่าคืออะไร? มีกี่ประเภท? และมีวิธีการใช้งานอย่างไร?

กาวยางคืออะไร?

“กาวยาง” คือกาวอเนกประสงค์ที่ใช้ในการติดวัสดุต่าง ๆ เข้าด้วยกัน โดยบางคนก็มักจะเรียกติดปากว่ากาวเหลือง หรือกาวลามิเนต กาวยางผลิตมาจากยางสังเคราะห์ประเภทยางนีโอพรีน มีลักษณะเหลวใสแต่ยังไม่เหลวเท่ากาวร้อน มีสีเหลืองทองคล้ายสีน้ำมัน และมีความหนืด กาวยางมีประสิทธิภาพในการยึดติดสูง สามารถใช้ในการยึดติดวัสดุหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นพลาสติก หนัง โลหะ แผ่นไม้อัด ลามิเนต หรือยาง เป็นต้น
จุดเด่นของกาวยางคือสามารถใช้งานได้สะดวก สามารถยึดเกาะวัสดุได้ทันที และมีความทนต่อความชื้นในระดับหนึ่ง เพราะคุณสมบัติที่มีความยืดหยุ่น การใช้กาวยางในการติดวัสดุจะทำให้วัสดุไม่เปราะหรือหลุดได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้งานตามเหมาะสม เช่น กาวยางชนิดทา กาวยางชนิดพ่น และกาวยางชนิดกลิ้ง

กาวยางอย่างมีกี่แบบ? ใช้งานแตกต่างกันยังไง?

กาวยางแต่ละประเภทมีจุดเด่น และการใช้งานที่แตกต่างกัน ซึ่งเราสามารถแบ่งกาวยางได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ กาวยางน้ำ และกาวยางโซลเวนท์

1. กาวยางน้ำ (Water-based Adhesive)
   กาวยางชนิดนี้มีส่วนผสมของน้ำ และอยู่ในรูปของเหลว ข้อดีคือไม่ติดไฟ และไม่มีกลิ่นฉุน โดยทั่วไปนิยมใช้กาวยางน้ำในการติดกระดาษ นอกจากนี้ยังเหมาะกับการนำมาใช้งานติดฉนวนประเภทที่เป็นเส้นใย เช่น ฉนวนใยแก้ว ฉนวนใยหิน เป็นต้น กาวยางน้ำสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ
   • กาวยางน้ำ PVA (Polyvinyl Acetate) ใช้งานได้กับวัสดุที่หลากหลาย เหมาะสำหรับงานกระดาษ และงานซ่อมแซมภายในบ้าน เนื้อกาวมีลักษณะเหลว สามารถนำไปใช้งานได้ทันที
   • กาวยางน้ำ PSA (Pressure Sensitive Adhesive) เป็นกาวยางน้ำที่มีแรงยึดติดสูงเมื่อแห้งตัว ทนต่อน้ำและความชื้น เนื้อกาวมีความยืดหยุ่น เหนียวหนึบ เมื่อทากาวจะยังคงความเหนียวเอาไว้ จึงสามารถทาติดฉนวนต่อได้โดยไม่ต้องทากาวแล้วติดทันที
   • กาวยางน้ำ EVA (Ethylene Vinyl Acetate) เป็นกาวยางน้ำที่มีลักษณะคล้ายยางเหนียว ยืดหยุ่นสูง สามารถยึดเกาะได้ดี ทนทานต่อแสงยูวีและกันน้ำได้
2. กาวยางโซลเวนท์ (Solvent-based Adhesive)
   กาวยางโซลเวนท์เป็นกาวยางที่มีส่วนผสมของสารทำละลายอย่าง โทลูอีน (Toluene) ผลิตจากยางสังเคราะห์ชนิด Chloroprene (Neoprenen) หรือยางคลอโรพรีน ที่มีคุณสมบัติทนไฟ ทนต่อสารเคมี และน้ำมัน ทั้งยังสามารถทนต่อสภาพอากาศที่ร้อน และเย็นได้เป็นอย่างดี กาวยางโซลเวนท์จึงเหมาะกับการใช้ในงานฉนวนประเภท โฟมยางดำ และ โฟมพีอี (PE) กาวยางชนิดนี้มีความแข็งแรง และมีแรงยึดเกาะที่ดีมาก แต่มีข้อเสียคือกลิ่นฉุน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันในท้องตลาดเริ่มมีการผลิตกาวยางโซลเวนท์แบบที่มีกลิ่นบางเบาเพิ่มมากขึ้นหากพูดถึงการใช้งานกาวยางโซลเวนท์ สามารถใช้งานได้กับวัสดุหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ยาง หนัง ผ้า หญ้าเทียม ฟองน้ำ เป็นต้น วงการเฟอร์นิเจอร์นิยมใช้กาวยางโซลเวนท์ในการปิดผิวไม้ นอกจากนี้ ถ้าหากนำไปใช้งานในการติดตั้งฉนวนกันความร้อน กาวยางชนิดนี้ก็สามารถเพิ่มการยึดเกาะของฉนวนกันความร้อนได้ดียิ่งขึ้น สามารถนำมาทาติดฉนวนโฟมยาวดำได้อีกด้วย จะเห็นได้ว่ากาวยางเป็นกาวอเนกประสงค์สารพัดประโยชน์ สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายเลยทีเดียว

วิธีการใช้งานกาวยาง?

หลังจากที่เราได้รู้ว่ากาวยางแต่ละประเภทมีการใช้งานที่แตกต่างกัน เราไปดูขั้นตอนการใช้งานของกาวยางกันบ้างดีกว่า ต้องบอกเลยว่ากาวยางมีวิธีการใช้ที่สะดวก และรวดเร็วมาก ๆ เริ่มจากการทำความสะอาด และเช็ดพื้นผิววัสดุให้แห้ง ตัววัสดุที่จะติดเข้าด้วยกันจะต้องไม่มีฝุ่นเกาะเพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพในการยึดติดของกาวยางลดลงได้ หลังจากนั้นจึงปาดกาวยางให้ทั่วตัวงานทั้งสองชิ้นด้วยหวีกาวให้เป็นรูปตาข่าย ควรใช้หวีกาวแทนแปรงทาสีในการปาดกาวเพื่อให้กาวยางเคลือบวัสดุทั้งสองชิ้นให้เท่ากันทั้งแผ่น เมื่อปาดกาวแล้วรอประมาณ 15 นาทีเพื่อให้กาวแห้งหมาด ๆ จากนั้นจึงนำวัสดุมาประกบกันให้แนบสนิท ไม่มีฟองอากาศ เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย

การใช้กาวยางให้มีประสิทธิภาพยังขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ และความชื้น เพราะทั้งสองสิ่งเป็นปัจจัยหลักที่สามารถส่งผลต่อการแห้งตัวของกาวยางได้ อุณหภูมิที่สูงจะช่วยให้กาวยางแห้งเร็วขึ้น เพราะอัตราการระเหยของของเหลวจะเพิ่มขึ้น ในขณะที่อุณหภูมิที่ต่ำ หรือมีความชื้นทำทำให้กาวยางแห้งตัวช้าลง

เก็บรักษากาวยางอย่างไรให้ใช้ได้นาน?

การเก็บรักษากาวยางให้ใช้ได้นาน คือการปิดฝาให้แน่นสนิทเมื่อใช้งานแล้ว เป็นการป้องกันไม่ให้ตัวทำละลายระเหยออกจนกาวแห้ง นอกจากนี้ยังควรเก็บกาวยางในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม คือมีอุณหภูมิที่ปกติ ไม่ร้อนจนเกินไป เปิดฝากาวยางเฉพาะเวลาจำเป็นเท่านั้น เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น ปกติแล้วกาวยางจะมีอายุการเก็บ 1 – 2 ปี และมีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือนหลังจากเปิดใช้งาน

เป็นอย่างไรบ้างกับข้อมูลเกี่ยวกับกาวยางที่ ยูเนี่ยน คอนแมท นำมาฝาก เรียกได้ว่าเป็นกาวอเนกประสงค์สารพัดประโยชน์ที่สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย สามารถใช้ติดวัสดุได้หลายประเภท กาวยางแต่ละประเภทก็เหมาะสมกับการใช้งานที่ต่างกัน ซึ่งถ้าหากคุณต้องการใช้กาวยางเพื่อการยึดติดที่แน่นมาก ๆ และต้องการกาวยางที่สามารถแห้งได้เร็วเพื่อให้ประหยัดเวลาทำงาน การเลือกใช้กาวยางโซลเวนท์ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว

บริษัท ยูเนี่ยน คอนแมท จำกัด ผู้จัดจำหน่ายวัสดุยาแนวทั่วไป และวัสดุยาแนวกันไฟ รวมทั้งอุปกรณ์ติดตั้ง ท่อน้ำ ท่อลม และท่อดักท์ กาวยาง กาวซิลิโคน กาวอะคริลิค (แด๊ป) เรายังให้บริการจำหน่ายสินค้าประเภทฉนวนกันความร้อน ฉนวนกันเสียงคุณภาพใยหิน ROCKWOOL ครบวงจร ทั้งปลีก และส่ง อาทิ แผ่นสะท้อนความร้อน ฉนวนกันความร้อนหลังคา ใยหิน ใยแก้ว อลูมิเนียมฟอยล์ ครอบสันหลังคา เทปอลูมิเนียม ฟอยล์กันความร้อน เราใส่ใจในทุกรายละเอียดการบริการ เพื่อลูกค้าคนสำคัญ มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่สมเหตุสมผล

ติดตามข่าวสาร พร้อมรับโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์พิเศษจากเรา

Line : ucm.123
โทร. 02-467-5103, 02-868-1525, 081-818-7431
อีเมล: sales@unionconmat.co.th, union_conmat@yahoo.com