Checklist: 10 จุดในบ้านที่ “ต้อง” ยาแนว (และต้องใช้ ซิลิโคน หรือ อะคริลิค?)

คุณรู้หรือไม่ว่า “รอยต่อ” เล็กๆ ตามจุดต่างๆ ในบ้าน คือจุดอ่อนที่ทำให้น้ำรั่วซึม, แอร์รั่วไหล, แมลงบุกรุก หรือแม้แต่เป็นจุดสะสมของเชื้อรา การ “ยาแนว” (Sealing) จึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่างดีๆ ไม่มีวันมองข้าม

แต่ปัญหาที่คนทำบ้านเอง (D.I.Y.) หรือแม้แต่ช่างมือใหม่ยังสับสน คือ… “จุดนี้” ควรใช้ ยาแนวซิลิโคน หรือ ยาแนวอะคริลิค (แด๊ป)?

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุยาแนว ผมขอมอบ Checklist 10 จุดสำคัญในบ้านนี้ ที่จะช่วยให้คุณเลือกใช้ยาแนวได้ “ถูกชนิด” จบงานสวยงาม ทนทาน ไม่ต้องแก้งานซ้ำซ้อนครับ

เคล็ดลับง่ายๆ ก่อนเริ่ม:

• ซิลิโคน (Silicone): ใช้สำหรับงาน “เปียก” (กันน้ำ, ทนชื้น, กันเชื้อรา) และงานที่ต้องการ “ความยืดหยุ่น” (ทนแดด) | ข้อจำกัด: ทาสีทับไม่ติด
• อะคริลิค (Acrylic): ใช้สำหรับงาน “แห้ง” (ภายใน) และงานที่ต้องการ “ทาสีทับ” เพื่อความสวยงาม | ข้อจำกัด: กันน้ำไม่ดีเท่าซิลิโคน

Checklist 10 จุดสำคัญในบ้านที่ต้อง “ยาแนว”

🎯 กลุ่มที่ 1: พื้นที่ “เปียกชื้น” (ต้องใช้ซิลิโคนเท่านั้น!)

1. ขอบอ่างล้างจาน และเคาน์เตอร์ครัว

• ปัญหา: เป็นจุดที่โดนน้ำขัง, คราบมัน, และเศษอาหาร อาจเกิดเชื้อราดำ
• ต้องใช้: ยาแนวซิลิโคนที่มีสารป้องกันเชื้อรา
• เหตุผล: ต้องการการกันน้ำ 100% และควรเลือกรุ่นที่มีสารป้องกันเชื้อรา (Anti-Fungus) โดยเฉพาะ 

2. รอบสุขภัณฑ์ (อ่างล้างหน้า, โถสุขภัณฑ์)

• ปัญหา: โดนน้ำและความชื้นสูงมาก หากยาแนวไม่ดีจะเป็นคราบดำ ลอกล่อน
• ต้องใช้: ยาแนวซิลิโคนที่มีสารป้องกันเชื้อรา
• เหตุผล: เหมือนข้อ 1 คือต้องกันน้ำและป้องกันเชื้อรา

3. ขอบอ่างอาบน้ำ และฉากกั้นอาบน้ำ

• ปัญหา: จุดที่น้ำไหลผ่านและขังตัวมากที่สุด
• ต้องใช้: ยาแนวซิลิโคน
• เหตุผล: ต้องการความทนทานต่อความชื้นสูงสุด ห้ามใช้อะคริลิคเด็ดขาดเพราะจะบวมและยุ่ย

4. ขอบหน้าต่าง (โดยเฉพาะ “วงกบด้านนอก”)

• ปัญหา: ต้องเผชิญทั้ง “น้ำฝน” (ภายนอก) และ “แสงแดด UV” (ที่ทำให้ยาแนวกรอบแตก)
• ต้องใช้: ยาแนวซิลิโคน (เกรดทนทานต่อสภาพอากาศ)
• เหตุผล: ซิลิโคนมีความยืดหยุ่นสูง ทนทานต่อ UV และกันน้ำรั่วซึมจากภายนอกได้ดีที่สุด

🎯 กลุ่มที่ 2: พื้นที่ “แห้ง” (เน้นสวยงาม ทาสีทับ)

5. บัวเชิงผนัง และบัวฝ้าเพดาน

• ปัญหา: มีรอยต่อ ร่อง หรือช่องว่างระหว่างบัวกับผนัง/ฝ้า ทำให้ดูไม่เรียบร้อย และเป็นที่สะสมฝุ่น
• ต้องใช้: ยาแนวอะคริลิค (แด๊ป)
• เหตุผล: งานนี้ต้องการ “ทาสีทับ” เพื่อเก็บความเรียบร้อยให้เนียนไปกับผนัง ซึ่งอะคริลิคทำได้ดีที่สุด

6. วงกบประตู และขอบหน้าต่าง (ฝั่ง “ในบ้าน”)

• ปัญหา: รอยต่อระหว่างวงกบ (ไม้/อะลูมิเนียม) กับผนังปูน ซึ่งมักทาสีเก็บงานไม่สวย และทำ “แอร์รั่ว”
• ต้องใช้: ยาแนวอะคริลิค (แด๊ป)
• เหตุผล: เพื่ออุดร่องก่อนทาสีทับ ทำให้ผนังจบงานกับวงกบได้คมกริบ และยังช่วยกันเสียง/กันแอร์รั่วได้ด้วย

7. รอยแตกร้าวบนผนัง (รอยแตกลายงา)

• ปัญหา: รอยแตกเล็กๆ บนผนังปูนหรือยิปซัม ก่อนทาสีใหม่
• ต้องใช้: ยาแนวอะคริลิค (แด๊ป)
• เหตุผล: เนื้ออะคริลิคจะยึดเกาะกับปูนได้ดี และเมื่อแห้งก็สามารถทาสีทับได้ทันที

8. รอยต่อเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน (Built-in)

• ปัญหา: ช่องว่างระหว่างตู้บิวท์อินกับผนัง หรือระหว่างแผ่นไม้
• ต้องใช้: ยาแนวอะคริลิค (แด๊ป)
• เหตุผล: สามารถเลือกสีที่ใกล้เคียงกับไม้ (เช่น สีขาว, สีน้ำตาล) หรือใช้สีขาวแล้วทาสีทับได้เพื่อความเนียนตา

🎯 กลุ่มที่ 3: พื้นที่ “พิเศษ” (ต้องเลือกให้ถูก)

9. รอยต่อหลังคาเมทัลชีท หรือรางน้ำฝน

• ปัญหา: โดนแดดจัดและฝนหนักโดยตรง ต้องการการยึดเกาะสูงและทนทานมาก
• ต้องใช้: ยาแนวซิลิโคน (เกรดงานภายนอก/งานหลังคา) หรือ ยาแนวโพลียูรีเทน (PU Sealant)
• เหตุผล: ต้องการวัสดุที่ทน UV จัดๆ และยืดหยุ่นสูงมาก ซิลิโคนเกรดดีจะตอบโจทย์นี้ได้

10. รอยต่อกระจกกับกรอบอะลูมิเนียม

• ปัญหา: งานเฉพาะทางที่ต้องการความใส หรือการยึดเกาะกับวัสดุผิวเรียบ
• ต้องใช้: ยาแนวซิลิโคน (เกรดงานกระจก/ตู้ปลา)
• เหตุผล: ซิลิโคนถูกออกแบบมาให้ยึดเกาะกับกระจกได้ดีที่สุด (อาจเลือกใช้แบบ “ไร้กรด” (Neutral) สำหรับงานอะลูมิเนียมบางประเภท เพื่อป้องกันการกัดกร่อน)

ตารางสรุป: ซิลิโคน vs อะคริลิค

สรุป

การเลือกใช้ยาแนวผิดประเภท ไม่เพียงแต่งานจะออกมาไม่สวยงาม (เช่น เอาซิลิโคนไปยาแนวผนังแล้วทาสีไม่ติด) แต่ยังอาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่ (เช่น เอาอะคริลิคไปยาแนวห้องน้ำแล้วรั่วซึม)

เพียงแค่คุณจำง่ายๆ ว่า “ซิลิโคน = งานเปียก/งานนอก” และ “อะคริลิค = งานแห้ง/งานทาสี” Checklist นี้ก็จะช่วยให้งาน D.I.Y. ของคุณออกมาสมบูรณ์แบบ ทนทาน และสวยงามเหมือนมืออาชีพทำครับ

ต้องการยาแนวที่จบทุกปัญหาบ้าน?

เลือกชม ยาแนวซิลิโคนคุณภาพสูง (สำหรับงานห้องน้ำ/ภายนอก)และ ยาแนวอะคริลิคเนื้อเนียน (สำหรับงานภายใน/ทาสีทับ)ของเราได้เลย

หรือ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้เราช่วยเลือกวัสดุที่เหมาะกับงานของคุณ

ติดตามข่าวสาร พร้อมรับโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์พิเศษจากเรา

โทร. 02-467-5103, 02-868-1525, 081-818-7431
อีเมล: sales@unionconmat.co.th, union_conmat@yahoo.com